คนสองโลก เปลี่ยนโรคทุกข์ ซึม เศร้า เหงา เซ็ง เป็น สุข สมหวัง สำเร็จ ด้วยใจเหนือคน

เคนโด้ เกรียงไกรมาศ พจนสุนทร

star-blank star-blank star-blank star-blank star-blank

คนสองโลก-เปลี่ยนโรคทุกข์-ซึม-เศร้า-เหงา-เซ็ง-เป็น-สุข-สมหวัง-สำเร็จ-ด้วยใจเหนือคน-หน้าปก-ookbee ดาวน์โหลดแอป

เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้

"หลังจากบักเคนโด้ประกาศตัวผ่าน “รายการตีสิบ” ว่าเคยป่วยเป็น “ไบโพลาร์” (Bipolar) หรือที่เรียกว่า“โรคอารมณ์สองขั้ว” อธิบายอย่างคร่าวๆ ก็คือ มีสองสภาวะที่สุดโต่ง ขั้วแรก อารมณ์พรั่งพรูพุ่งกระฉูดแบบฉุดไม่อยู่ กับอีกขั้วก็จะจิตตกหดหู่ซึมเศร้าแบบ Deep Sood Mind หรือลึกสุดใจ (แหม จะใช้ศัพท์ให้เข้าใจยากทำไมเนี่ย ฮะ ฮา ฮ่า) ก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม เพราะหลายๆ คนที่ชมรายการแล้วเกิดความสงสัยว่า ตัวเองหรือคนรอบข้างจะเป็นไหมหนอ ตัวเคนโด้เองในฐานะที่ประสบกับโรคนี้ในระดับที่เรียกได้ว่า ต้องกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับมันมาระยะเวลาหนึ่ง จนในที่สุดก็สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำ “หายแล้วเด้อ” รวมถึงคนใกล้ตัวก็ป่วยเป็นโรคนี้ อีกทั้งยังไม่นับเพื่อนฝูงหรือคนรู้จักอีกมากมายก่ายกองที่เข้าข่าย จนทำให้เคนโด้ตกอกตกใจ “เฮ้ย ทำไมมันเยอะขนาดนี้” ไม่เพียงแต่คนรู้จักเท่านั้น พอเปิดดูข่าวคราวต่างๆ ก็อดอุทาน อุ๊ต๊ะๆ ออกมาไม่ได้ เพราะความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัว ความรุนแรงต่างๆ ในสังคม หลายกรณีก็มีแนวโน้มนะ ทำให้เคนโด้คิดว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องลุกขึ้นสู้ ประกาศตัวไฝว้กับเจ้าไบโพลาร์ให้รู้ดำรู้แดง วัดกันไปเลยว่ามันกับ “บักเคนโด้” ใครจะแน่กว่ากัน เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือไบโพลาร์ยังมี...บักเคนโด้ ฮะ ฮา ฮ่า โรคนี้นี่ถ้าจะถามว่า “น่ากลัวไหม” ตอบเลย “น่ากลัวมากกก” ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ พออาการกำเริบ เคนโด้ไม่รู้จะบรรยายยังไง อย่างช่วงที่อารมณ์พรั่งพรู เผินๆ เหมือนจะสุขนะ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ถ้าให้อธิบายอย่างได้ฟิลลิง ก็ประมาณเหมือนตัวเราเป็นโซดาที่กำลังถูกเขย่าขวดแรงๆ อารมณ์จะพุ่งกระฉูดพร้อมระเบิดได้ตลอดเวลา ในช่วงนี้ส่วนมากผู้ป่วยจะมีบุคลิกบ้าพลัง หนักๆ เข้าก็จะก้าวร้าว มีอารมณ์รุนแรง ห้าวเป้ง ไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น อย่างเคนโด้เอง เมื่อก่อนตอนที่อยู่ในช่วงนี้ก็ท้ารบกับเขาไปทั่ว แต่พออาการเริ่มดีขึ้นก็เดินสายเข้าไปขอโทษขอโพย ตอนนั้นจะรู้สึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่ แต่นั่นไม่ใช่เคนโด้นะ เป็นอาการของโรค จริงๆ แล้วเคนโด้น่ารักจะตาย ฮะ ฮา ฮ่า หรือใครจะเถียง หาๆ (อุ๊ย โทษที ลืมตัว) ช่วงที่ซึมเศร้า มองอะไรก็หม่นๆ ไปหมด ไม่อยากรับรู้ ไม่อยากทำอะไร เหนื่อยหน่ายท้อแท้กับชีวิตอย่างไม่มีเหตุผล หนักๆ เข้า บางคนถึงขั้นอยากฆ่าตัวตายไปเลยก็มี จึงเป็นโรคทางอารมณ์ที่สร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้ป่วยและคนรอบข้างอย่างหนักหนาสาหัส หลายๆ คนที่โทรมาปรึกษากับเคนโด้และคุณแม่ ซึ่งมีหลายกรณีที่เข้าข่าย มีอยู่รายหนึ่งเมื่อก่อนคิดว่าลูกตัวเองมันซั่วชั่ว คิดว่ามันเลว ไม่รักลูกรักเมีย แต่ก็อดเอะใจไม่ได้ว่า เอ๊ะ เมื่อก่อนลูกเราไม่ใช่คนอย่างนี้นี่หว่า พอได้รับคำแนะนำ คุณป้าคนนั้นก็พาลูกชายไปรักษาจนในที่สุดก็หายเป็นปกติ ทำให้ได้ลูกชายที่น่ารักกลับคืนมา ขอย้ำอีกที เคนโด้เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้น ก็เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจ เห็นถึงพิษสงของโรคนี้ และสำรวจตัวเอง คนรอบข้าง ว่ามีอาการเข้าข่ายไหม จะได้เยียวยารักษาอย่างทันท่วงที ด้วยเรากำลังต่อสู้กับ “โรคไบโพลาร์” ไม่ใช่ต่อสู้กับ “ผู้ป่วยไบโพลาร์” เพราะการแสดงออกหรือการกระทำต่างๆ ไม่ใช่ตัวตนของเขา แต่เป็นเพราะอาการของโรคที่กระตุ้นโน้มนำให้เป็นไปเช่นนั้น คนในครอบครัวจึงต้องมีความอดทนอดกลั้นเป็นอย่างสูง โรคนี้ถึงแม้จะน่ากลัว หากรักษาแต่เนิ่นๆ อย่างถูกวิธี สามารถหายเป็นปกติได้จ้า แต่ก็มีเงื่อนไขและรายละเอียดปลีกย่อยที่เคนโด้จะค่อยๆ อธิบายไป ถ้าเป็นเรื่องที่เคนโด้รู้ดีอยู่แล้วในฐานะ “คนเคยป่วย” ก็จะบอกจะแนะนำไปเลยแบบไม่มีกั๊ก แต่ถ้าเป็นข้อมูลทางการแพทย์ที่ละเอียดอ่อน เคนโด้ก็ได้สอบถามจิตแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเพื่อความชัวร์ เพื่อที่คุณผู้อ่านจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด เพื่อให้เห็นภาพอย่างชัดเจน เห็นถึงพิษสงของโรค หนทางรักษา หนังสือเล่มนี้ก็จะมีเรื่องราวของเหล่าพลพรรคผู้ที่เคยป่วยเป็นไบโพลาร์ รวมถึงผู้ดูแลท่านต่างๆ ที่ยินดีมาถ่ายทอดเพื่อเป็นแนวทางและสร้างแรงบันดาลใจในระดับที่เรียกได้ว่า “หัวเราะร่าน้ำตาริน” ที่สำคัญ ระหว่างอ่านหนังสือเล่มนี้หรือพออ่านจบแล้ว ลองสำรวจตัวเองและคนรอบข้างดูกันเด้อ ถ้ามีแนวโน้มที่จะเป็น ก็ไม่ต้องตกอกตกใจ ทำใจร่มๆ ไว้ เพราะโรคนี้จะน่ากลัวมากถ้าเจ้าตัวไม่รู้ว่าตัวเองเป็น แต่ถ้ารู้ ยอมรับตัวเองได้ เข้ารับการรักษา และกินยาอย่างม่ำเสมอ แป๊บๆ ก็หายแล้ว เคนโด้ในฐานะไบโพลาร์รุ่นพี่ขอคอนเฟิร์ม "


หมวดหมู่
สุขภาพ
สำนักพิมพ์
DMG Books
ประเภท
PDF
ราคาหน้าปก
฿170
ISBN
N/A
จำนวนหน้าดิจิตอล
0 หน้า
วันที่เปิดขาย
06 May 2015
ประเทศ
Thailand
ภาษา
Thai