โสภี พรรณราย
"ความแค้นดั่งไฟร้อน...โหมเริงแรง ความรักดุจไฟเย็น...โลมเล้าใจ เปลวไฟต่างระเริงหลอมรวมกลางสองดวงใจ ...................................................................... เมื่อน้องสาวหายตัวไป เพราะหนีความอับอายในงานวิวาห์ ที่ต้องกลายเป็นเจ้าสาวที่ไร้เจ้าบ่าว มีหรือคนอย่าง ญาดา จะยอมให้ใครมารังแกคนในครอบครัว ไม่มีวันที่เธอจะยอมปล่อยให้คนคนนั้นลอยนวลไปได้ . ผู้ชายคนนั้นคือ ชาคริต เขาจงใจนำความอับอายมาสู่ตระกูล เมธาสิทธิ์ เพื่อแก้แค้นให้กับกรรมที่ไม่ได้ก่อของบิดา พวกนั้นจะต้องได้ลิ้มรสความเจ็บปวด เช่นที่เขาเคยได้รับมาแต่วัยเยาว์ ดอกผลของความชิงชังจึงถูกเก็บเกี่ยวเอากับทายาทของตระกูลนั้น และไม่มีทีท่าจะยุติลงง่าย ๆ . เมื่อคนใจแกร่งมาพบกับคนใจหิน จึงต่างก็มีใจที่พร้อมจะปะทุเชื้อเพลิงให้คุกรุ่น ครั้นถูกเติมต่อด้วยไฟอารมณ์ จึงเหมือนต่างคนต่างโหมไฟใส่กัน ให้ยิ่ง ระเริงไฟ แรงร้อน อย่างยากจะดับได้โดยง่าย . ในสมรภูมิที่ต่างฟาดฟันกันอย่างไม่มีกติกา ไม่สนความถูกผิด หวังผลเพียงให้อีกฝ่ายแพ้พ่ายและเจ็บช้ำ กลับมีความผูกพันบางอย่างก่อเกิด ด้วยว่าหัวใจมนุษย์...อย่างไรก็มีเลือดเนื้อ มีหรือที่ความชิดใกล้...ที่แม้จะผนวกกับอารมณ์เกรี้ยวโกรธ แต่ก็ยังแทรกแซมความหวั่นไหวดุจเปลวไฟที่คอยไล้โลมอารมณ์ . ...ต่อให้ไฟนั้นร้อนแรงสักเพียงใด ก็หมดเชื้อได้ เมื่อมีความรักคอยหลอมละลาย จนไฟแค้นนั้นกลายเป็นไฟรักอันเย็นหวามใจ ..........."