วาสนา
วาสนา
"ขณะประคับประคองกล่องขนมแนบอก ค่อยๆ เดินไปหาลิฟต์ กล่องซ้อนสูงบังตาเขาพอสมควร แต่ตาเจ้ากรรมไม่วายเห็นคนที่เขาพยายามไม่อยากมองหา อีกจนได้ หล่อนฉับๆ ในท่ารีบร้อน ผ่านเขาไป พริษฐ์หยุดพักแขนที่เริ่มล้า อดเหลียวไปตามเสียงใสๆ นั้นไม่ได้ “เชพจ๋า คุณโต้งแวะมาดู ท่านอยากได้น้ำส้มคั้นเย็นๆ ค่ะ ทำให้ด่วนเลยนะคะ เดี๋ยวนาฏเอาขึ้นไปให้เอง” “ตอนนี้ ข้างนอกเป็นยังไงมั่ง เสียงฟ้าเปรี้ยงๆ มาถึงนี่เลยล่ะ” “ค่ะ ไม่รู้ปีนี้เกิดอะไรขึ้น พายุลูกนี้ถึงได้แรงขนาดนี้ ได้ยินว่ามีป้ายโฆษณาหล่นทับรถกับคนในรถด้วยนะคะ” พริษฐ์เดินต่อ กล่องทำท่าจะร่วง เพราะมันไกวไปมาแปลกๆ ฉับพลัน เขาเบิกตาโพลง เมื่อเห็นผนังตึกลั่นเปรี๊ยะๆ หลอดไฟบนเพดาน ร่วงกราว กล่องในมือเขากระจายลงพื้น บางอย่างทำให้ชายหนุ่มวิ่งย้อนกลับไปที่ห้องครัว ทว่า.ข้าวของในครัวกำลังสั่นไหว หล่นกระจายเต็มพื้น คนทำครัวกว่าสิบ ตะโกนอย่างแตกตื่น ขณะของจากไหนก็ไม่รู้ หล่นกราว เสาต้นใหญ่ ไหวอย่างน่าสะพรึงกลัว “คุณ นาฎ!” พริษฐ์ตะโกน แต่ช้าไปเสียแล้ว เสาต้นใหญ่ เอียง แล้วก็ล้มไปทางตู้เย็นขนาดใหญ่ เศษหิน เศษปูน ร่วงจนเขาต้องยกมือกันศีรษะ พุ่งตัวไปทางร่างในชุดสูทสั้น ที่เห็นเพียงแว่บเดียว เศษปูน หิน ก็ร่วงกราวลงใส่หล่อน กองพูน ขณะพริษฐ์ไม่อาจขยับตัว เพราะเศษปูน เศษหิน ร่วงราวกับใครเทมันลงมาพร้อมๆ กัน แล้ว อะไรอย่างหนึ่งเห็นแว่บเดียว เขาก็รู้สึกราว โลกแตก ดับมืดลงพร้อมสติ วูบไปกับความมืดมิด สำนึกสุดท้ายคือ ..ตึกถล่ม อย่างที่เขากริ่งเกรง จริง..!"